ในทางธุรกิจสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการวัดผลลัพธ์ ถ้าเป็นทางธุรกิจง่ายที่สุด เราจะวัดผลลัพธ์จากการลงทุนในธุรกิจด้วยค่า Return on Investment หรือ ROI แต่ในทางการตลาด อาจจะไม่ใช่ !!
ในทางการตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน หลายท่านน่าจะเคยได้ยินคำว่า "ROAS" แล้วมันคืออะไร มันเหมือน ROI ไหม บทความนี้ จะมาอธิบายให้เข้าใจกันง่ายๆครับ...
ROAS ย่อมาจาก Return on AD Spend หรือ ผลตอบแทนจากการใช้เงินลงโฆษณา
แน่นอนครับว่ามุมมองในการทำการตลาด อาจจะไม่เหมือนกับมุมมองในการลงทุนเสียทีเดียว สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือ SMEs ที่เจ้าของธุรกิจดูแลกิจการทั้งหมด ฉนั้นการมองภาพรวมของธุรกิจ เราจะมองเป็น ผลตอบแทนของการลงทุน หรือ ROI เป็นหลัก อันนี้เป็นเรื่องปกติครับ
แต่สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ หรือ Cooperate Brand ที่มีการแยกส่วนต่างๆของธุรกิจเป็นสัดส่วนชัดเจน ฝ่ายการตลาดอาจจะไม่รู้เรื่อง ต้นทุน หรือเงินลงทุนในกิจการธุรกิจทั้งหมด ฉนั้นตัว Investment หรือเงินลงทุนนั้น ฝ่ายการตลาดไม่ทราบ
สิ่งเดียวที่ฝ่ายการตลาดจะรู้คือ งบประมาณในการทำ แคมเปญการตลาด หรือเรียกง่ายๆ ว่างบโฆษณาการตลาด เท่านั้น นั่นจึงเป็นที่มาของการคำนวณหาความคุ้มค่าของ ผลตอบแทนจากการใช้เงินโฆษณา หรือ Return on Ad Spend (ROAS)
ROAS หรือ ROI ดีกว่ากัน ?
ฉนั้นเมื่อเรารู้ที่มาของคำทั้ง 2 คำแล้ว ก่อนที่จะตอบได้ว่า ROAS หรือ ROI อะไรดีกว่ากัน เราต้องมาวิเคราะห์ค่าผลลัพธ์ของทั้ง 2 คำนี้ก่อนว่ามาจากอะไรกันบ้า
ROI (Return on Investment)
เงินลงทุนในกิจการ เราจะมองทุกอย่างที่ต้องใช้เงิน เป็นการลงทุนทั้งหมด อาทิเช่น ค่าวัตถุดิบสินค้า, ค่าเงินเดือนพนักงาน, ค่าเช่าต่างๆ รวมเรียกว่า Fixed Cost และ Variable Cost ทั้งหมดเลยเรียกเป็นเงินลงทุน
ROAS (Return on Ad Spend)
ส่วน ROAS เราจะคิดแค่ค่าการตลาดในแคมเปญหนึ่งๆ เท่านั้น เช่น ค่าโฆษณา, ค่าทำสือการตลาด, ค่านางแบบ นายแบบเป็นต้น (แต่ในทางการตลาดออนไลน์ เรามองว่า สื่อทางการตลาด และ Influencer เป็นงบการตลาดรวม ฉนั้น Ad Spend อาจจะคิดจากค่าโฆษณาออนไลน์อย่างเดียวเท่านั้นก็ได้ครับ)
ฉนั้น ลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพที่ชัดเจนกันครับ
ตัวอย่าง : บริษัท A เป็นบริษัทเล็กๆ มีพนักงาน 3 คน (เงินเดือนคนละ 10,000 บาท) ทำสินค้าออกมา 1 ตัว ขายในราคา 1000 บาท โดยมีต้นทุนอยู่ที่ 200 บาท/ชิ้น ทำการตลาดเฉพาะออนไลน์ เพื่อให้ใช้เงินได้คุ้มค่ามากที่สุด ใน 1 เดือน ใช้เงินลงโฆษณาออนไลน์ไปทั้งหมด 20,000 บาท และขายได้ทั้งสิ้น 100 ชิ้น ได้ยอดขายเป็นเงินทั้งสิ้น 100,000 บาท
จะได้ค่า ROI และ ROAS ที่ต่างกัน ดังนี้
ROI = 100,000 บาท (ยอดขาย)
________________________
10000x3 + 200x100 (เงินทุนทั้งหมด)
= 2.0 (ผลตอบแทนเป็น 2 เท่าของเงินลงทุน)
ROAS = 100,000 บาท (ยอดขาย)
_________________________
20,000 บาท (ค่าโฆษณา)
= 5.0 (ผลตอบแทนจากการลงโฆณาเป็น 5 เท่า)
ฉนั้นจะเห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่า 2 ค่ามีการคำนวณต่างกันอย่างไร แล้วคำถามที่เราจะมาตอบกัน นั่นคือ แล้ว ROI กับ ROAS อะไรเอามาใช้งานได้จริงมากกว่ากัน
สำหรับนักการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของ Marketing Agency หรือฝ่ายการตลาด จะมองที่ต้นทุนค่าโฆษณาเป็ฯหลักสำคัญครับ เพราะเราจะไม่ทราบว่าค่า Investment จริงของธุรกิจเป็นเท่าไหร่ และมีอะไรบ้าง ฉนั้นในการลงโฆษณาออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Ads, Google Ads เราจะมองที่ ROAS เป็นหลักในการวิเคราะห์ผลจากการยิงโฆษณาออนไลน์ครับ
อย่างไรก็ตามผลของ ROAS ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละสินค้า แต่ละธุรกิจ ไม่เหมือนกันเลย ฉนั้นจะจะเอาค่า ROAS ของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับของเราอาจจะไม่ได้ครับ
แต่ถ้า จำเป็นต้องหาค่า ROAS เบื้องต้น ให้ได้จริงๆ จากประสบการณ์ของผม เมื่อไปทำโฆษณาจริง จะได้ค่า ROAS เฉลี่ย ประมาณ 3-4 เท่า ก็ถือว่าเป็นค่าเฉลี่ยที่ใช้ได้แล้วครับ แต่ถ้าใครทำได้มากกว่า 4 เท่า ก็ถือว่าเยี่ยมเลยครับ
แต่....สิ่งที่ต้องคิดต่อจากค่า ROAS คือ Margin หรือกำไรสินค้าต่อชิ้นของพวกเราอยู่ที่เท่าไหร่ครับ เพราะ ถ้ายิ่ง Margin ต่ำ จำเป็นต้องได้ค่า ROAS ที่สูง มาชดเชยกันครับ
มาดูตัวอย่างกันนะครับ
ROAS = 3 เท่า (ยอดขาย 300-. เงินลงแอด 100-. กำไรเบื้องต้น 200-.)
แต่ถ้า Margin กำไรได้แค่ 30% นั่นคือ ยอดขาย 300-. กำไรจริงๆ ได้ 90-. เท่านั้น เมื่อลงโฆษณา 100-. นั่นคือเราขาดทุนไปแล้ว 10-. นะครับ
แต่ถ้า Margin กำไรเราได้ถึง 80% นั่นคือ ยอดขาย 300-. กำไรจริงๆ เราจะได้ 240-. ลงโฆษณา 100-. เราจะมีกำไรเหลือ 140-. ครับ
ฉนั้นสรุป ค่า ROAS ไว้สำหรับดูประสิทธิภาพการลงโฆษณาออนไลน์ในเบื้องต้นเท่านั้นครับ และเราต้องคำนวณ Margin หรือ GP ของสินค้าเราเบื้องต้นไว้ด้วยนะครับ ถึงจะบอกได้จริงๆ ว่าเราทำธุรกิจ มียอดขายแล้วมีกำไรเบื้องต้น เยอะหรือน้อย
ไว้ครั้งต่อไป เราจะมาคุยกันต่อเรื่อง ROAS กับ Conversion ทางการตลาดออนไลน์ ติดตามกันต่อนะครับ
อ.โหน่ง อลงกรณ์ - ปรุงการตลาดออนไลน์
อาจารย์และที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์
ถ้าท่านชอบเนื้อหา อย่าลืม กด like & share ให้เพื่อนๆกันด้วยนะคร๊าบ
กด Subcription เพื่อไม่ให้พลาด ติดตาม บทความการตลาดออนไลน์ของเรา
** บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์ **
** กรณีต้องการแชร์ ส่งต่อให้ผู้อื่น กรุณาอ้างอิงกลับโดยใส่ link กลับมาที่เวปไซด์นีด้วยนะครับ **
Tips เทคนิคดีๆ ที่ไม่ได้เปิดเผยที่ไหน เฉพาะคนสนิท เท่านั้น
FB Page : อ.โหน่ง MarketingCusine การตลาดคือการปรุงอาหารที่มากกว่าความอร่อย
สอนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ฟรีๆ
พูดคุยกับ อ.โหน่ง Line ID:
Tel. 094-789-2645
Komentar