top of page

Digital Data Marketing Strategy กลยุทธ์การใช้ ดาต้าสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก SMEs

กว่า 49.2% ของธุรกิจขนาดใหญ่ มีการใช้ Data ในการลดรายจ่าย
กว่า 44.3% ของธุรกิจขนาดใหญ่ ใช้ Data ทำให้เกิดการค้นพบนวตกรรมใหม่ๆ และทำให้เกิดสินค้าและบริการใหม่
ธุรกิจที่ใช้ Data มาร่วมในการวางแผนธุรกิจ วางแผนการตลาด มีผลตอบแทน ROI มากกว่า 600% เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ

ข้อมูลจาก Harvard Business Review ที่ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารของบริษัทที่มีรายได้จากการประกอบการสูงอันดับต้นๆของสหรัฐอเมริกา


และเป็นการจุดประกายให้สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อยว่า ถ้าเรานำ Data มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจของเราจะทำให้เกิดการเติบโต อย่างก้าวกระโดดได้ และวันนี้เราจะมาคุยกันว่า เราจะนำ Data มาใช้ในการวางกลยุทธ์ธุรกิจได้อย่างไรกันครับ



Data และ Big Data คืออะไร


Data คือ ข้อมูล เช่น ภาพ เสียง ตัวหนังสือ รายงานการประชุม รายงานด้านการตลาด หรือข้อมูลที่ได้มาแบบยังไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์ ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะอยู่ในรูปแบบใด ประเภทใดก็ตาม ก็ถือว่าเป็น Data ทั้งสิ้น


แล้ว Big Data ล่ะ ? ก็คือเมื่อมี Data เข้ามาเยอะๆ จนเกิดกว่าที่เราจะสามารถเก็บข้อมูลมาประมวลผลเองได้ ข้อมูลเหล่านั้น จะรวมเรียกว่า Big Data ซึ่ง Big Data มีองค์ประกอบสำคัญ 7 ประการ ได้แก่

  1. ปริมาณ (Volume)

  2. ความเร็ว (Velocity)

  3. ความหลายหลาย (Variety)

  4. ความแม่นยำ (Veracity)

  5. ความน่าเชื่อถือ (Reliability)

  6. การผันแปร (Variability)

  7. และคุณค่า (Value)


Data Marketing คืออะไร


Data Marketing คือ การนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้ามาใช้ในการปรับเปลี่ยน วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด โดยดาต้า อาจมาจากการเก็บข้อมูลของธุรกิจเอง หรือนำข้อมูลมาจากแหล่งภายนอกก็ได้ เพื่อนำมาศึกษา วิเคราะห์ และทำความเข้าใจ ถึง ความชอบ ความสนใจ และพฤติกรรมของว่าที่ลูกค้าของเราได้


การเก็บ Data Source สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือแบรนด์ใหญ่ๆ เป็นสิ่งที่แบรนด์ต่างๆ ทำกันอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนที่ ออนไลน์จะมีอิทธิพลในการตลาดมากเช่นนี้ ผ่านการทำ Marketing Research, Marketing Survey แต่ในยุคดิจิตอล หรือยุค Digital Transformation นี้ เครื่องมือเกือบทั้งหมดได้ถูก Transform ไปสู่ออนไลน์ ที่ธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงจนเกินไป


เรามาเรียนรู้เครื่องมือที่จะช่วยเราในการหา Data ที่เราสามารถทำได้เองผ่าน Digital Platform ของเราเองง่ายๆ ได้ยังไง


1. Data form CRM Management

ภาพจาก saaslist.com

ข้อมูลจากระบบ CRM หรือระบบดูแลลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management) ข้อมูลนี้มาจากการสร้างระบบลูกค้าเก่า และการดูแลกลุ่มเป้าหมายที่มาเป็นลูกค้าเราแล้ว ข้อมูลดังกล่างยังสามารถเก็บรวบรวมมาทำ Segmentation ในการพัฒนาการตลาดเฉพาะ (Personalized Marketing) ให้กับกลุ่มลูกค้าเรา ได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเครื่องมือ CRM ได้แก่

  • LINE OA

  • Messenger Bot (เช่น Page365, Deeple)

  • Marketing Automation (เช่น Active Campaign, Wix, Mailchamp)

  • SaleForce


2. Data form Web Analytic

รูปจาก neilpatel.com

การมีเวปไซด์สำหรับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่ กลาง หรือขนาดเล็ก มีความสำคัญมาก เพราะเราสามารถเก็บข้อมูล Data จาก Traffic ที่พากลุ่มเป้าหมายมาถึงธุรกิจเรา (นั่นคือเวปไซด์ธุรกิจเรานั่นเอง) หากธุรกิจเรา มีเพียง Facebook Page หรือ Social Media เท่านั้น เราจะมีข้อมูลเฉพาะที่ Facebook กำหนดให้ (ซึ่งน้อยมาก มีเพียงข้อมูล Like, Comment Share และ Engagement เท่านั้น ไม่ได้บอกว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร และ Traffic มาจากไหน ยกเว้น ถ้าคุณลงโฆษณากับ Facebook :ต้องเสียตังค์อีก)


Web Analytic เป็นเครื่องมือที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลที่เกิดขึ้นบนเวปไซด์จริงๆ ของเรา ซึ่งข้อมูล Customer Data ที่ได้มานี้เป็นข้อมูลสำคัญในการนำไปใช้วิเคราะห์และ ปรับกลยุทธ์การตลาดต่อไปได้ครับ


3. Data form Mobile App

ภาพจาก neilpatel.com

Mobile App Analytic มีลักษณะเหมือน Web App Analytic แต่มุ่งเน้นที่การเก็บ Data จากคนที่เข้ามาใช้บริการผ่าน Mobile App เป็นสำคัญ จุดประสงค์หลักคือเพื่อเก็บข้อมูล พฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปพัฒนา กลยุทธ์ทางการตลาดในอนาคต


4. Data from Transaction

ภาพจาก page365.net

Data จากข้อมูลธุรกรรมบนเวปไซด์ หรือ Social Media ของเราหรือ Transaction Data นี้อาจะเป็นข้อมูลที่หลายคนไม่ได้ให้ความสนใจ แต่ข้อมูลบางส่วนนี้สามารถนำไปวิเคราะห์ข้อมูล เพิ่มเติมได้เป็นอย่างดี อาทิเช่น

  • ราคาส่วนมากที่ลูกค้ายินดีจ่ายเงินเพื่อซื้อ

  • ช่องทางการชำระเงินที่ลูกค้าสะดวก

  • ช่วงเวลาที่สะดวกในการชำระเงิน

  • อีเมล์ และเบอร์ติดต่อของลูกค้าจริง ที่สามารถต่อยอดไปทำ Lookalike Group ต่อได้


ในปัจจุบันปี 2022 มีเครื่องมือ Marketing Tools หรือที่หลายๆคนรู้จักในนาม Marketing Technology เป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บข้อมูลและนำข้อมูลมาประยุกต์ใช้ พัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดได้เป็นอย่างดี เพราะมีความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมาก สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือ SMEs ที่สนใจต้องการเรียนรู้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่น่าสนใจ และสามารถนำไปใช้ได้จริงกับธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ กลาง และขนาดเล็ก ติดตามได้ที่ 6 ประเภทเครื่องมือ Marketing Technology ปี 2022 ที่นักการตลาดจำเป็นต้องรู้



ตัวอย่าง Case Study แนวทางในการนำ Data มาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์


การนำ Data จากข้อมูลเบื้องต้นมาใช้ในการวางแผนการทำการตลาดออนไลน์ ทำได้หลากหลายวิธี วันนี้ อ.โหน่ง อลงกรณ์ มีไอเดียง่ายๆ ในการนำข้อมูล Data นี้มาใช้ต่อยอดกันครับ


ถ้าเรามี Data เดิมจากการทำการตลาดมาซักพักนึงแล้ว แม้จะเป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ได้มากมาย แต่เป็นข้อมูลเบื้องต้น พื้นฐาน เราก็สามารถนำข้อมูล Data นี้ไปใช้ในการวางแผนการตลาดออนไลน์ต่อไปได้แล้วครับ ตัวอย่างเช่น


แบรนด์ ก ขายสินค้ากลุ่มสกินแคร์ มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเพศหญิง อายุ 30-55 ปี เก็บข้อมูลในปีที่ผ่านมาทาง Google Analytic พบว่าผู้เยี่ยมชมเวปไซด์ส่วนใหญ่มีอายุ 25-35 ปี และมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าผ่านทางเวปไซด์มากที่สุด โดยเข้าผ่าน Mobile Device เป็นส่วนใหญ่

จากข้อมูลข้างต้น ถ้าผู้บริหารต้องการเพิ่มยอดขายธุรกิจ ให้สูงขึ้น 30% เราสามารถออกแบบแคมเปญการตลาดได้ดังนี้


1. Custom Ad Targeting

  • สร้างแคมเปญโฆษณาทาง Social Media ไปยังกลุ่มเป้าหมายอายุ 25-35 ปี

  • ใช้การ Optimize โฆษณาให้รับชมผ่าน Mobile Device เท่านั้น

  • เลือกใช้ Social Media ตามที่กลุ่มเป้าหมายนิยม เช่น Instagram, Facebook, Twitter, TikTok โดยเลือกช่องทางจาก Third Party Data หรือ กลุ่ม Influencer ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายเป็นสำคัญ

  • สร้าง Ads ขึ้นมาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย (ทั้ง Picture และ Clip) และทำระบบ A/B Testing เพื่อสร้างแคมเปญโฆษณาที่ตรงใจเป้าหมาย



2. E-mail List Segmentation


e-mail marketing ถือเป็นอีกช่องทางสื่อสารการตลาดออนไลน์ ที่ยังมีประสิทธิภาพ แต่นักการตลาดหลายคนมักมองข้าม และเห็นว่าไม่มีประโยชน์แล้ว แต่แท้จริงแล้ว e-mail ยังเป็นเครื่องมือที่คนทั่วไปยังใช้งานอยู่ (ถ้าเราลืม password เราก็ต้องยืนยันด้วย e-mail หรือถ้าเราติดต่อลูกค้าธุรกิจ องค์กร ก็จำเป็นต้องใช้ e-mail อยู่จริงไหมครับ หรือแม้แต่เด็ก นักเรียน นักศึกษา ก็จำเป็นต้องเช็ค e-mail เช่นเดียวกัน)


e-mail เป็นเครื่องมือ CRM ที่สามารถเก็บข้อมูลผู้ติดตามได้ และสามารถ Tracking พฤติกรรมลูกค้าเป้าหมายได้เช่นเดียวกับ Web Analytic และทำ Segmentation ผู้ติดตามแบ่งกลุ่มความสนใจ และนำเสนอสินค้า บริการให้เหมาะสมกับผู้ติดตามนั้นๆ ได้ อาทิเช่น

  • ข้อมูลด้าน Demographic ทั่วไปเช่น เพศ, อายุ, การศึกษา, Social Media ที่ใช้ เป็นต้น

  • พฤติกรรมการใช้งาน e-mail ว่าเปิดอ่านช่วงไหน เปิดอ่านแล้วคลิ๊กหรือไม่ คลิ๊ก link ไหนบนอีเมลล์ เป็นต้น

  • Purchasing Behavior หรือพฤติกรรมในการซื้อ โดยแบ่งได้หลายหลาย เช่น ผู้บริโภคที่ชอบซื้อสินค้าโปรโมชั่น, ผู้บริโภคที่สั่งซ์้อปริมาณมากๆ เป็นต้น


ในการทำ e-mail list Segmentation นี้จะช่วยให้ธุรกิจเพิ่ม Open Rate หรืออัตราในการเปิดอ่าน e-mail สูงขึ้น จนนำไปสู่ Conversion Rate หรือโอกาสในการปิดการขายที่เพิ่มขึ้นด้วยได้ไม่ยาก

ภาพจาก techtarget.com

สรุป ความสำคัญของ Data Marketing Strategy


ในการทำ Data Marketing หรือการทำการตลาดด้วยข้อมูล ถือเป็นสิ่งสำคัญในยุค 2022 และหลังจากนี้ต่อไป เพราะเป็นข้อมูลพื้นฐาน ในการวางแผนการตลาด หรือแม้แต่การวางแผนขับเคลื่อนภายในองค์กร ให้มีประสิทธิภาพ เพิ่มศักยภาพของธุรกิจในทุกขนาด


แม้ข้อมูลของธุรกิจขนาดเล็กจะมีไม่มาก แต่ถ้าเรามีระบบ หรือมีการจัดการในการเก็บข้อมูลที่ดี เราสามารถนำข้อมูลดังกล่าว มาสร้างกลยุทธ์ที่สร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันให้กับธุรกิจของเราให้เหนือกว่าธุรกิจคู่แข่งอื่นๆได้


สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ต้องการการวางแผนกลยุทธ์ด้านข้อมูล (Data Marketing) ที่สามารถนำไปในการทำการตลาดออนไลน์ได้จริง และใช้ทุนในการจัดเก็บข้อมูลไม่สูงเกินไปนัก สามารถติดต่อ อ.โหน่ง - พี่เลี้ยง ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ เพื่อให้ข้อมูลแนวทางได้ที https://line.ee/Om76Vlg


หรือสนใจคอร์สออนไลน์ที่จะแนะนำท่านให้ประยุกต์ใช้การตลาดข้อมูล เพื่อทำแคมเปญการตลาดออนไลน์อย่างได้ผลจริง สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม


Data Marketing Strategy : การใช้ Big Data สำหรับธุรกิจ SMEs เพื่อเพิ่มยอดขายออนไลน์อย่างได้ผลจริง คลิ๊ก https://line.ee/Om76Vlg

Comments


2.png

Digital Advertising Articles

Content Marketing Articles

Digital Marketing Trends Articles

bottom of page