
ทำไม โฆษณา Facebook Ads ของคุณไม่ Work ?
เป็นคำถามที่ คนขายของออนไลน์ หรือนักธุรกิจที่ทำการตลาดผ่านออนไลน์ ตั้งคำถามกันมากกว่า 90%
ในความเป็นจริง Facebook Ads เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากมาย แต่มันไม่ใช่เวทย์มนต์ที่จะบันดาลได้ทุกอย่าง ผู้ที่ลงโฆษณาหลายๆคนผิดหวังกับการลงโฆษณา ทั้งๆที่แต่ก่อนเคยลงโฆษณาแล้วขายได้ ยอดขายยุ่ง แต่ตอนนี้ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น
ขณะที่ Facebook พัฒนาเครื่องมือ function ใหม่ๆ ให้เราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้เราขายได้ แต่จริงๆ แล้วที่เราขายไม่ได้ ไม่มีลูกค้า อาจจะไม่ใช่เพราะเครื่องมือ!!
มีอยู่ สองสามประเด็น ที่ทำให้โฆษณาของคุณมันไม่ Work !!
ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่สุดที่คนส่วนมากมองข้าม ผมขอยกมา 3 ปัจจัยสั้นๆ ดังนี้ครับ
1. ผลิตภัณฑ์/สินค้าของคุณ มันห่วย !!! ถ้าสินค้าของคุณมันไม่น่าสนใจเอาเสียเลย ราคาก็แพง ประกันก็ไม่มี ฯลฯ จะโฆษณา Facebook ให้ดีเลิศขนาดไหน มันก็ขายไม่ได้ !!! (รวมถึงแม้จะสินค้าดี แต่คุณเอาแต่ขาย ขาย ขาย และขาย มันก็ไม่ WORK)
2. แบรนด์ของคุณ มันไม่โดน !! คุณอาจมีสินค้าที่โดน...ที่ปัง แต่มันก็อาจจะถูกเมินได้ ถ้าแบรนด์คุณไม่ดัง หรือเป็นที่รู้จัก คุณจำเป็นต้องลงทุนให้คนรู้จักคุณหรือรู้จักแบรนด์คุณ และคุณต้องสื่อสารด้วย ข้อความที่ชัดเจน และดังพอ... ถ้าแบรนด์ของคุณไม่ได้สะท้อนความเป็น Professional...ใครที่ไหนจะมาสนใจล่ะ ?
3. เวปไซด์ของคุณ มันเอ้าท์ !! ถ้าคุณมีสินค้าที่ปัง แบรนด์ที่โดน แต่... คุณส่งลูกค้าไปยังเวปไซด์ที่อัฟเฟรด (ภาษาวัยรุ่น แปลว่า น่าเกลียด ทุเรศ) แล้วลูกค้าจะซื้อสินค้าของคุณมั้ย ?
คุณอาจจะถามผมว่า เวปไซด์แบบไหนที่เห่ย (ดูไม่ดี ไม่สวย) ผมจะบอกว่ามันรวมทั้งหมด ตั้งแต่การดีไซน์ รูปแบบ รูปภาพ การใช้งาน รวมถึง mobile friendly, link ที่ผิด หรือหน้าเวปไซด์ผิด (ยิ่งกว่านั้น มีบางโรงแรม บางบริษัทขนาดใหญ่ ที่ปล่อยให้ Domain หมดอายุ ผมเข้าไปแล้ว อึ้งเลย)
แม้ว่าจะมีปัจจัยหลายๆอย่างที่ทำให้โฆษณา Facebook Ads คุณไม่ work แต่ผมต้องขอบอกว่า 10 สิ่งต่อไปนี้คุณต้องหลีกเลี่ยง ถ้าคุณต้องการประสบความสำเร็จจาก Facebook Ads !!!
1. Reach the wrong people: เลือกกลุ่มเป้าหมายผิด
มันคือสิ่งสำคัญที่ผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่พลาด พวกเค้ามักจะมองแค่ Interest Targeting (ซึ่งผู้ประกอบการบางส่วนยังไม่เข้าใจ และไม่ได้ Set Interest ที่เหมาะสมเลยด้วยซ้ำ) ซึ่ง Interest Targeting บ่อยครั้งที่มันไม่ค่อยแม่นยำอย่างที่เราคิด คาดหวังไว้ (คุณไว้ใจพี่มาร์ค แค่ไหนล่ะ หุหุ)
2.Reach the right people at the wrong time : กลุ่มเป้าหมายใช่ แต่เวลาไม่ใช่
บางครั้ง กลุ่มเป้าหมายที่เราเลือกชอบสินค้าเรา แต่เราโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมายนี้ผิดเวลา เค้าก็ยังไม่ซื้อ ตัวอย่าง : กลุ่มเป้าหมาย Interest Targeting โดยปกติจะเหมาะสำหรับการส่งไปใน Funnel ในส่วน Funnel Promotion (เพื่อให้ตัดสินใจซื้อเลยทันที) แต่เราดันส่งไปในส่วนการรับรู้ Product/Brand เค้าก็ไม่ซื้อ
ตัวอย่างการเลือกเวลาที่ใช่ : กลุ่มเป้าหมายที่คลิ๊กเข้ามาที่เวปไซด์เรา เป็นคนที่สนใจในสินค้าเรา เหมาะสำหรับทำ e-mail list สำหรับทำ e-mail Marketing (ในบ้านเรา e-mail marketing ก็ยังสามารถหาลูกค้าได้ครับ ประหยัดกว่า Facebook เยอะมากแต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำ) และกลุ่มเป้าหมายที่สมัครรับข่าวสาร เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ดีมากสำหรับการขาย !
3.Reach the right people with the wrong message: กลุ่มเป้าหมายใช้ แต่เนื้อหา ข้อความไม่โดน
มันเป็นเรื่องของ Content ล้วนๆ ส่วนมากคนลงโฆษณาจะเน้นขายๆๆ และยิ่งขายไม่ได้ ก็จะยิ่งขาย (แปลกไหม ??? แต่หลายคนกำลังทำอยู่) ยิ่งคุณทำก็ยิ่งเป็นการคุกคามกลุ่มเป้าหมายด้วย content ขาย แล้วเค้าจะซื้อไหมล่ะ หรือ content คุณไม่ได้แสดงความเป็น Professional ผลที่ได้..ยิ่งทำให้แย่ลงไปอีก
4.งบประมาณน้อย/มากเกินไป
หลายคนอาจจะงง ว่าถ้างบประมาณเยอะไปทำไม่ถึงเป็นปัญหา? มันเป็นปัญหาทั้ง 2 แบบครับ เราต้องจัดสรรงบประมาณตามขนาดของกลุ่มเป้าหมาย เช่น เราไม่สามารถใช้เงิน 1,000฿/วัน สำหรับกลุ่มเป้าหมายแค่ 5,000 คน มันมากเกินไป (กลุ่มคนนี้จะเห็นโฆษณาเราบ่อยเกิน จนเค้าเซ็ง!! ) นอกจากนี้ คุณต้องไม่ใช้เงินเยอะๆ โฆษณา จนเมื่อคุณมองเห็นบางสิ่ง บางกลยุทธ์ที่มัน Work แม้กลุ่มเป้าหมายจะไม่ได้มาก ก็สามารถทำได้ แต่คุณต้องทดสอบมันก่อน ด้วยเงินที่น้อยๆ ก่อนจะเอาจริง (เค้าเรียกว่า A/B Testing) ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ลงโฆษณา บ่อยครั้งที่ยินดีจะใช้เงินให้เยอะเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อาทิเช่น ถ้าคุณใช้เงินโฆษณาสินค้า ราคา 3,000 บาท คุณไม่ควรคาดหวังว่าจะใช้เงิน 100 บาท/วัน แล้วจะได้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะซื้อสินค้าเรา 100% (มันจำเป็นต้อง Screen กลุ่มเป้าหมายนี้ให้เล็กลงอีก) ในทางเดียวกัน Facebook ต้องการให้เราเลือกกลุ่มเป้าหมายให้กว้าง เพื่อที่ระบบของ Facebook จะสามารถคัดเลือกกลุ่มคนให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การโฆษณาของเรา เพื่อให้เกิด Conversion หรือการซื้อนั่นเอง แต่ถ้าเรากำหนดงบประมาณที่ต่ำ อาจจะทำให้ระบบของ Facebook ไม่สามารถสรรหากลุ่มคนได้เหมาะสม
5.ค่า Bid โฆษณา เยอะหรือน้อยเกินไป
โดยปกติ Facebook จะ set default ไว้ที่ auto-bids ซึ่งเป็นการ bidding เพื่อให้เหมาะสมตามวัตถุประสงค์การโฆษณาให้มากที่สุดด้วยราคาที่ต่ำที่สุด แต่ในต่างประเทศ มีผู้ลงโฆษณาหลายคนชอบไปปรับแก้ไขมัน ไม่ใช่ว่าระบบ Manual Bids จะไม่ดี ไม่ควรใช้ แต่คุณต้องรู้ให้ชัดก่อนว่าคุณจะทำอะไร การ bid ที่ราคาต่ำมากๆ อาจจะทำให้คนเห็นน้อยและไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ถูกต้อง (ชอบแต่ไม่มีกำลังซื้อ) การ bid ที่ราคาสูงไป อาจทำให้เสียตังค์มากเกินจำเป็น
6.ปรับแต่งรูป / Content ผิดวัตถุประสงค์
คุณควรปรับแต่งโฆษณา
- เพื่อ Conversion ถ้าต้องการ conversion
- ปรับแต่งเพื่อ Traffic ถ้าต้องการ Traffic
- ปรับแก้ไขรูป/content เพื่อ Engagement ถ้าต้องการ Engagement
ปัจจุบัน เราจะเน้นรูปเดียวกัน/Content เดียวกัน แต่จะเอาทุกอย่าง Conversion ก็เอา Traffic ก็เอา Engagement ก็เอา....มันจะทำได้หรอ ???
7.เลือกวัตถุประสงค์การโฆษณาที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย
ผมจะได้ยินบ่อยมาๆ ที่คนลงโฆษณาไปแล้วผิดหวังกับผลลัพธ์ เช่น โฆษณา Clip ซึ่งเป็น Clip ที่ดีมากๆ แต่ไม่มี Conversion ตามที่ตั้งใจไว้ เพราะคุณเลือกวัตถุประสงค์การโฆษณาผิด!!! ใช้ Clip ถ้าวัตถุประสงค์เราต้องการให้คนเห็น Clip นี้ | ใช้ link (Single link หรือ Carousel) ถ้าวัตถุประสงค์ต้องการให้คนเข้ามาที่เวปไซด์ หรือเพื่อซื้อสินค้า และใช้รูปภาพถ้าต้องการ Engagement
8.คุณไม่ได้ทดสอบและวิเคราะห์โฆษณาของคุณดีพอ
เมื่อคุณลงโฆษณา Campaign, Ad Set,และไม่ประสบความสำเร็จ คุณควรต้องทดสอบ 2-3 ครั้งต่อไป อย่าล้มเลิก แต่ต้องปรับแก้ไขสิ่งที่ไม่ใช่จนค้นหาสิ่งที่ใช่ให้ได้ ไม่ใช่ทำซ้ำๆอย่างเดิม
9.คุณไม่ได้เก็บข้อมูล
ถ้าคุณไม่ได้ใช้ Pixel แสดงว่าคุณกำลังหลงทางอยู่ คุณจะไม่รู้เลยว่ามีจำนวน Conversion ที่เกิดขึ้นเท่าไหร่แล้ว (มีแค่ Google Analytic ก็ไม่เพียงพอครับ สำหรับ Conversion Facebook) คุณจะไม่สามารถปรับแก้ไขเพื่อให้ได้ Conversion ที่ต้องการได้เลย
10.วางเป้าพลาด โฟกัสผิด
มีหลายๆคน ถามผมว่า “CPC หรือ CTR หรือ CPM ที่ดี ที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่ ?? ผมตอบไม่ได้หรอกครับ!! มันต้องแล้วแต่วัตถุประสงค์ในการลงโฆษณาของคุณเช่น ถ้าวัตถุประสงค์คุณคือ การสั่งซื้อสินค้าที่เวปไซด์คุณ คุณต้องวัดผลลัพธ์เบื้องต้นด้วย Cost per Conversion ไม่ใช่ CPC หรือ CTR
นี่เป็นเพียงเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่คนทำโฆษณาบน Facebook Ads จำเป็นต้องรู้ไว้ครับ ส่วนครั้งหน้ามาเรียนรู้กันกับ "7ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การลงโฆษณา Facebook Ads ประสบความสำเร็จกันครับ"
------------------------------------------------------------------------------------------
ถ้าท่านชอบเนื้อหา อย่าลืม กด like & share ให้เพื่อนๆกันด้วยนะคร๊าบ
กด Subcription เพื่อไม่ให้พลาด ติดตาม บทความการตลาดออนไลน์ของเรา
** บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์ **
** กรณีต้องการแชร์ ส่งต่อให้ผู้อื่น กรุณาอ้างอิงกลับโดยใส่ link กลับมาที่เวปไซด์นีด้วยนะครับ **
Tips เทคนิคดีๆ ที่ไม่ได้เปิดเผยที่ไหน เฉพาะคนสนิท เท่านั้น
https://web.facebook.com/groups/144847359581038/
FB Page : อ.โหน่ง MarketingCusine การตลาดคือการปรุงอาหารที่มากกว่าความอร่อย
http://www.facebook.com/marketingcuisine
สอนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ฟรีๆ
https://www.youtube.com/channel/UCtbsu8Ox7gWVxCDV3GjU5yQ/
พูดคุยกับ อ.โหน่ง Line ID:
https://lin.ee/ff6B0e0
คุยส่วนตัว อ.โหน่ง : m.me/marketingcuisine
Tel. 094-789-2645
------------------------------------------------------------------------------
Comments